วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

Welcome Back

ยินดีต้อนรับตัวเองสู่ Mrsongkiat.blogspot.com อีกครั้ง
ห่างหายไปนาน แต่ไม่เคยห่างคิดถึง
วันนี้แวะมาอีกครั้ง...คาดว่าคงไม่ไกลไปอีก
ขอต้อนรับนักศึกษาที่ใช้ประโยชน์ในการ download เอกสารบรรยายที่จดไม่ทัน (หรือไม่ทันได้จด) เมื่อ download ด้านซ้ายมือแล้วอย่าลืมชายตามองคอลัมภ์ด้านขวามือบ้าง หรี่ตาดูก็ยังดี เพราะตั้งใจเขียนบางอย่างไว้ให้ "ขบ" และ "คิด"
อ.ทรงเกียรติ

วันจันทร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2553

เบื้องหน้า...เบื้องหลัง

อาจารย์เข้าไปสวดในวัดพร้อมลูกศิษย์
แมวตัวน้อยที่เลี้ยงไว้ก็เข้ามากวนตัวกวนใจ...วิ่งวนไปรอบ ๆ
เมื่อห้ามปรามไม่ได้ผล จึงนำเชือกมาผูกแมวไว้ใกล้ ๆ
วันต่อมาเมื่อลงสวด...แมวก็ซุกซนทุกครั้ง...และอาจารย์ก็ผูกแมวทุกวัน
กาลเวลาผ่านไป...อาจารย์ตายจากไป
ลูกศิษย์ก็เข้าวัดสวดเช่นเคย...แต่ไม่สบายใจเพราะไม่เห็นแมว
จึงตามหา...เมื่อพบก็นำมาผูกไว้ใกล้ ๆ
เนิ่นนานไปหลายสิบปี...จนถึงปัจจุบัน
ทุกครั้งที่สวด...จะต้องมีแมวผูกไว้ที่แท่นข้างพิธี
เป็นแบบนี้ทุกครั้ง...และจะเป็นไปอีกนาน
จนเป็นความเชื่อว่าหากสวดโดยไม่ผูกแมว...การสวดภาวนาก็จะไร้ผล
และพิธีจะไม่สมบูรณ์เหมือนเมื่อครั้งอดีต...เป็นแบบนี้จริง ๆ

วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ชีวิตช่างงดงาม

คืนวันปีใหม่
ผู้คนสนุกสนาน แต่งตัวสดใส บรรยากาศมีสีสัน
ใบหน้าแสดงความสุขขณะเฉลิมฉลองด้วยการกินการดื่มในหมู่ญาติและมิตรสหาย
อาหารไม่อั้น และเครื่องดื่มก็ไม่จำกัด
ขณะหยิบยื่นของขวัญให้กันและกันอย่างสุขใจ

บรรยากาศก็เป็นเช่นเดียวกันในร้านบะหมี่เล็ก ๆ แห่งหนึ่ง
แม่และลูกสาวเดินเข้ามาในร้าน นั่งลงที่โต๊ะและสั่งบะหมี่น้ำหนึ่งชาม
ทั้งคู่แบ่งกันกินบะหมี่ชามนั้นจนหมดเกลี้ยง ไม่เหลือแม้น้ำซุปก้นชาม
แม่ลูกคุยกันเบา ๆ อย่างมีความสุข
ยิ้มให้กันอย่างสร้างกำลังใจ ที่สุด...แม่พูดกับลูกสาวว่า
"ปีนี้ช่างเป็นปีที่ดีจริง เรามีเงินเหลือพอซื้อบะหมี่ฉลองปีใหม่"
เมื่อจ่ายเงินค่าบะหมี่ แม่ลูกก็ออกจากร้าน หน้าตาสดใสและมีความสุข
...
สวัสดีปีใหม่ครับ แม้ชีวิตเราอาจจะยากกว่าคนอื่น
แต่ชีวิตนั้นงดงามเสมอ

วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2552

รำลึก...ถึงแม่จัน

รถคันหนึ่งจอดข้างทางในยามวิกาล
เมื่อประตูเปิด...ชายคนหนึ่งในสภาพเมาได้ที่เปิดประตูลงมา
จุดหมายปลายทางคือริมถนน...จากนั้นปลดปล่อยปัสสาวะที่เต็มฝืนจนสุดกลั้น
เมื่อภารกิจเสร็จสิ้น ก็รู้ว่าตนเองยืนติดกับเสาซิเมนต์สีขาว เตี้ย ๆ ริมถนน
ที่เสาต้นนั้นเขียนไว้ด้วยตัวอักษรสีดำชัดเจน สวยงามว่า "แม่จัน 18"
ด้วยสติผสมสุรา จึงรำพึงรำพันอย่างเศร้าใจว่า
"โธ่...แม่จัน อายุก็ยังน้อยแค่ 18 ปี ไม่น่าด่วนจากไปเร็วเลย"
และเมื่อมองสูงขึ้นไปอีกนิดก็เห็นตราครุฑที่ด้านบน จึงเสริมต่อไปว่า
"แม่จัน...ตายในราชการเสียด้วย"
แล้วโซเซกลับขึ้นรถด้วยความเศร้าใจ
...
เรื่องนี้...เก็บตกมาจากเรื่องเล่าของอาจารย์มงคล
เมื่อไปราชการมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
คราวที่ผ่าน อ.แม่จัน จ.เชียงราย

วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

พ่อตัวจริง

นักข่าวเดินไปตามถนน เห็นคนกลุ่มใหญ่มุงดูอะไรกันแน่น
ด้วยความอยากรู้จึงพยายามแหวกฝูงชนเพื่อจะเห็นเหตุการณ์
แต่คนแน่นมาก เบียดเข้าไปไม่ได้ พยายามหลายครั้งก็ไม่สำเร็จ
สุดท้าย...จึงตะโกนจนได้ยินไปทั่วว่า
"ขอเข้าไปหน่อย ฉัน เป็น พ่อ เขา นะ"
ได้ผล...ผู้คนทั้งหลายหลีกทางให้เขาเข้าไป
และภาพที่ปรากฏตรงหน้าก็คือ...แพะตัวหนึ่งที่ถูกรถชน

วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ฉันเลย OK

เรื่องนี้อาจารย์แชล่มเล่าไว้ในวงส้มตำ
คุณยายต้องการนั่งสามล้อไปตลาด จึงสอบถามราคาคนถีบสามล้อ
"50 บาทยาย" คนถีบสามล้อบอกราคา
"แพงไปหน่อย ลดให้ยายเป็น 40 ได้มั้ย"
"โอเค ขึ้นรถเลยยาย"
ยายรู้สึกงงกับคำตอบ "แล้วคำว่า โอเค มันแปลว่าอะไร"
คำตอบคือ "โอเค แปลว่าตกลง" ดังนั้น ยายจึงขึ้นนั่งสามล้อ
สามล้อเคลื่อนตัวไปได้สักระยะ คุณยายก็สะกิดคนถีบสามล้อ
"มีอะไรหรือยาย"
"ช่วยหยุดรถให้ยายหน่อยเถอะ เพราะเชี่ยนหมากของยายมัน โอเค ไปแล้ว"
...
เมื่อจบเรื่อง ผมถามอาจารย์แชล่มว่า
ขอยืมเรื่องไปเล่าต่อจะได้หรือไม่
คำตอบของอาจารย์แชล่มก็คือ "โอเค"

วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2552

สันติภาพ

ในงานฉลองครบรอบ 25 ปีวันแต่งงาน
มีผู้ถามสามีถึงเคล็ดลับการครองคู่
คำตอบมีดังนี้ "ภรรยาผมเป็นแม่บ้าน
เมื่อผมออกไปทำงาน เธอก็ทำอะไรได้ตามใจ
เมื่อผมกลับจากทำงาน ผมก็ทำอะไร ๆ ตามใจเธอ"